TANATORN

เครื่องดื่มว่านหางจระเข้

ที่มาของสินค้า น้ำว่านหางจระเข้ วีไรส์ (V-Rise)

“เราจะผลิตอาหารเพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพและความปลอดภัยขั้นสูงสุด”

Picture
ห้างหุ้นส่วนจำกัดบางกอก อโล ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2533 ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โรงงานตั้งอยู่เลขที่ 23/1 หมู่ 7 ต. วังน้ำเขียว อ. กำแพงแสน จ.นครปฐม จากแนวคิดที่จะ ผลิตสินค้า แปรรูปทางการเกษตรให้มีคุณภาพ และปลอดภัยในทุกขั้นตอนการผลิต โดยเริ่มตั้งแต่ การเพาะปลูกในฟาร์ม การเก็บผลผลิต การแปรรูปเป็นสินค้าสำเร็จรูป จนกระทั่ง ขบวนการส่งมอบ ถึงมือลูกค้า ปัจจุบันนี้ หจก. บางกอก อโล ได้ดำเนินการผลิตสินค้า หลากหลายชนิด ด้วยเครื่องจักร ที่ทันสมัย เพื่อรองรับความต้องการจากตลาดต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน ได้มีการส่งผลิตภัณฑ์ ว่านหางจระเข้ ไปยังประเทศต่างๆเช่น ฮ่องกง , ไต้หวัน , ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และ อังกฤษ

Quality Control and Development หจก. บางกอก อโล มุ่งเน้นที่การควบคุมคุณภาพที่ดีที่สุด และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนอง ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะ ทาง หจกฯ ได้ผลิตสินค้าให้กับลูกค้าทั่วโลกด้วยคุณภาพที่ดีที่สุด ภายใต้เทคโนโลยี และเครื่องจักรที่ทันสมัยด้วย เงินลงทุน กว่า 50 ล้านบาท ปัจจุบัน หจกฯ บางกอก อโล มีพนักงานกว่า 100 คน

“ คำนึงถึงความปลอดภัยและคุณภาพที่จะส่งมอบสินค้าถึงลูกค้าอย่างดีที่สุด “
เรามีกระบวนการตรวจสอบ ควบคุม และรักษาคุณภาพอย่างเป็นระบบ โดยสามารถตรวจสอบได้ ทุกขั้นตอน ทั้งยังได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานจาก
  • สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
  • สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (HALAL) ซึ่งเป็นที่ยอมรับตามหลักการของศาสนาอิสลาม
  • องค์กรชั้นนำในระดับโลก คือ CAMPDEN ซึ่งเป็นสถาบันรับรองมาตรฐานในระบบ GMP , HACCP จากประเทศอังกฤษ

  

Picture










Factory : 23/1 Moo7 Wangnumkeaw, Kampangsaen, Nakornpathom 73140 Thailand
Tel: +66 34 351-982, 66 86 807-8008 Fax: +66 34 351-200 | E-mail : [email protected]

ประวัติความเป็นมา

Picture
 ว่านหางจระเข้เป็นต้นพืชล้มลุกที่มีเนื้ออวบอิ่ม จัดอยู่ในตระกูลลิลลเลี่ยม (LILIUM) แหล่งกำเนิดอยู่แถบชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน และบริเวณตอนใต้ของทวีปอาฟริกา

คำว่า “อโล” (aloe) เป็นภาษากรีกโบราณ แผลงมาจากคำว่า “ALLAL” แปลว่า รสขม หรือ ฝาด ในภาษายิว ดังนั้น เมื่อมีผู้ใดเอ่ยคำนี้ ก็จะทำให้นึกถึงต้นว่านหางจระเข้ที่มีรสชาติฝาดปนขม

ว่านหางจระเข้ เป็นสมุนไพร ที่มีประวัติการใช้มากกกว่า 5,000 ปี มีการพบบันทึกสรรพคุณทางยาครั้งแรกในรูปของยาเม็ดดินเหนียวของชาวสุเมเลียน ในยุค 1750 ปีก่อนคริสตกาล

พระนางคลีโอพัตรา พระนางเนเฟอร์ติติ สองสาวงามอันลือชื่อ ในยุคอียิปต์โบราณ มีประวัติว่าพระนางใช้ เจลที่อยู่ในว่านหางจระเข้ เพื่ออาบและดูแลความงามของพระองค์

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ว่านหางจระเข้เป็นพืชสมุนไพร ที่ยังคงถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ในการบำรุงสุขภาพและดูแลร่างกายมาจนถึงปัจจุบัน


     

ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มว่านหางจระเข้

Picture
ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มว่านหางจระเข้ เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ผ่านการคัดสรรสมุนไพรธรรมชาติ “ว่านหางจระเข้” สายพันธุ์ อโล บาร์บาเดนซิส มิล (Aloe barbadensis Mill) ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ และการบำบัดโรคต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพทย์แผนโบราณ และแพทย์แผนใหม่ มีการนำมาใช้ผสมในเครื่องสำอาง หรือนำมาใช้เป็นอาหาร ซึ่งมีผลการวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม ทำให้ว่านหางจระเข้ได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” มาช้านาน

ว่านหางจระเข้ประกอบด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซม์ เบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ

ทำให้สรรพคุณชองว่านหางจระเข้นั้นมีมากมายนานัปการ นอกจากการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของร่างกายแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลการทำงานของร่างกายอีกด้วย หากบริโภคอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่เหมาะสม

            จากผลการวิจัยและการทดลองต่างๆ นักวิทยาศาสตร์พบว่า การรับประทานว่านหางจระเข้ก่อนมื้ออาหารจะช่วยปรับสมดุลของร่างกายในบุคคลที่มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างเร่งรีบ โดยจะช่วยเสริมสร้างระบบการย่อยอาหารให้สมบูรณ์ และทำให้ระบบการดูดซึมสารอาหารของร่างกายดีขึ้น นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะทางธรรมชาติ โดยนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิดในว่านหางจระเข้ ได้แก่

            อโลอิน (Aloin) ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด
            อีโมดิน (Emodin) ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
            อโลมิซิน (Aloemicin) ที่มีฤทธิ์สมานแผลและระงับการขยายตัวของเชื้อไวรัส

องค์ประกอบในว่านหางจระเข้
เอมไซม์ มีอยู่กว่า 10 ชนิด
กรดอะมิโน มีมากกว่า 18 ชนิด (8 ชนิดเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย)
วิตามิน A, B1, B2, B6, B12, C, E, Folic, Choine
เกลือแร่ Na, K, Ca, Mg, Cl, Mn

คุณประโยชน์ของว่านหางจระเข้ต่อส่วนต่างๆ
กระเพาะ ช่วยสมานแผลในกระเพาะและลำไส้ ลำไส้ปรวนแปร ช่วยควบคุมและฆ่าเชื้อโรค อันเป็นสาเหตุต้นกำเนิด เบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ไต กระตุ้นระบบการทำงานของไต ให้สามารถขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภูมิแพ้ สารมูโคโพลีแซคคาไรด์ มีประสิทธิภาพสูงในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ข้ออักเสบ, ปวดตามข้อ  สารในว่านหางจระเข้ช่วยลดอาการอักเสบ อ่อนเพลีย ว่านหางจระเข้มีประสิทธิภาพในการเสริมขบวนการเผาผลาญสารอาหารของร่างกาย (Metabolism) ให้ดียิ่งขึ้น ให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารและเกลือแร่ไปใช้ประโยชน์ได้ดียิ่งขึ้น แผลสด, พุพอง ช่วยกระตุ้นระบบการสร้างเนื้อเยื่อ และการไหลเวียนของเส้นเลือดในจุดที่เป็นแผล ทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้แผลหายได้เร็ว นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่เกิดเป็นแผลเป็น มะเร็ง มีอโลบิซิน และอโลคูติน สามารถระงับและยับยั้งการขยายตัวของเชื้อไวรัสของเซลล์มะเร็ง  

ว่านหางจระเข้เหมาะสำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
  • ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือแผลในกระเพาะอาหาร รวมถึงผู้ที่ท้องผูก อาหารไม่ย่อย
  • ผู้ที่มีปัญหาการนอนหลับยาก โดยจะช่วยให้เกิดสภาวะการหลับลึก ให้เกิดการพักผ่อนอย่างแท้จริงพร้อมปรับสภาวะสมดุลของร่างกาย
  • ผู้ที่มีแผลในลำไส้ โดยจะช่วยสมานแผลที่ลำไส้เล็กตอนต้น
  • ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ช่วยทำให้เส้นเลือดในสมองมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น
  • ผู้ที่เป็นโรคหวัด โดยจะเสริมภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อไวรัส ทังยังช่วยฆ่าเชื้อทำให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
  • ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ (รับประทานต่อเนื่อง 2-3 เดือน)
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โดยช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ผู้ที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเรื่องตับ โดยจะฟื้นฟูการทำงานของตับ
  •  ผู้ที่เป็นโรคสีดวงทวาร (ใช้ทา)
  • ผู้ที่เป็นแผลในช่องปากหรือมีแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก โดยจะมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อและสมานแผล
  • ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในระบบภูมิคุ้มกันเชื้อโรค
  • ช่วยต้านและยับยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็งและเชื้อไวรัส
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว รวมทั้งลดอาการแพ้ของผิวที่บอบบาง

ประโยชน์เพิ่มเติม
นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังถูกนำไปใช้เพื่อดูแลผิวพรรณและความงามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังที่เราได้ทราบกันแล้วว่า เครื่องสำอางราคาแพงเกือบทุกชนิด แชมพู ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว มักจะมีว่านหางจระเข้เป็นองค์ประกอบอยู่เกือบทุกชนิด

ทำอะไรได้อีก
1.มาร์คหน้า ใช้กระดาษมาร์คหน้าหรือทิชชู่จุ่ม น้ำว่านหางจระเข้ให้ชุ่มแล้วประกบบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10-20 นาที วันละครั้งแล้วล้างออก คุณจะสัมผัสได้ถึงความตึงและนุ่มเนียน นอกจากนี้คุณยังสามารถผสมน้ำว่านหางจระเข้กับน้ำผึ้ง, โยเกิร์ต, ไข่ ได้ตามต้องการ

2.ใช้ทาเพื่อบำรุงผิว ช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยป้องกันการไหม้เกรียมจากแดดได้เป็นอย่างดี ใช้เป็น AFTER SUN ทาหลังจากเผชิญกับแดดที่แรงๆ ลดการไหม้เกรียมลดการไหม้ของผิวและปกป้องการเกิดขุยผิว

3.แผลพุพอง ถลอก ใช้ผ้า หรือสำลีชุบน้ำว่าน ทาลงบนแผลวันละ 4-5 ครั้ง ช่วยลดการอักเสบ ติดเชื้อ ทั้งยังช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น

4.แผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ใช้ผ้าหรือสำลีชุบน้ำว่านทาลงบนแผลช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนได้เป็นอย่างดี

Aloe Vera Juice ยังสมารถใช้ผสมกับเครื่องดื่มที่คุณชอบหรือค๊อกเทลแสนอร่อยได้ตามต้องการ

ขนาดบรรจุและวิธีใช้

Picture
ขนาดบรรจุ : Aloe Vera Juice 1 ขวด ปริมาตรสุทธิ 750 มิลลิลิตร

วิธีเปิด : แกะพลาสติกครอบหุ้มฝาออกใช้มือหมุนที่ฝาแล้วดึงขึ้น

วิธีใช้ :
บุคคลปกติ : ควรดื่ม Aloe Vera Juice ครั้งละ 1 ถ้วยตวง (30 มิลลิลิตร) วันละ 2 ครั้ง ก่อนรับประทานอาหารเช้าและอาหารเย็น 30 นาที

บุคคลที่อ่อนหล้าและอ่อนเพลียจากการทำงานหนัก : ควรดื่ม Aloe Vera Juice ครั้งละ 1 ถ้วยตวง วันละ 3 ครั้ง ก่อนรับประทานเช้าและอาหารเย็น 30 นาที และก่อนนอน

บุคคลที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายและบำบัดโรค : ควรดื่ม Aloe Vera Juice ครั้งละ 1 ถ้วยตวง วันละ 4 ครั้ง ก่อนรับประทานอาหารเช้า, เที่ยง, เย็น 30 นาที และก่อนนอน

อายุการเก็บ : มีอายุเก็บ 1 ปี เมื่อเปิดฝาแล้วควรเก็บในตู้เย็น และควรบริโภคให้หมดภายใน 1 เดือน


VDO น้ำว่านหางจระเข้

ตอนที่ 1

ตอนที่ 2

ตอนที่ 3

ตอนที่ 4